ไขข้อข้องใจ “คอลลาเจน”

คอลลาเจน (Collagen) สำหรับใครหลาย ๆ คนอาจจะนึกว่าถึงความกระจ่างใสและอ่อนเยาว์ แต่จริง ๆ แล้วคอลลาเจน (Collagen) เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่พบได้ตามกระดูก กระดูกอ่อน รวมไปถึงเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกายของสัตว์และมนุษย์ โดยคุณสมบัติของคอลลาเจน (Collagen) นั้นช่วยเสริมสร้างความแข็งแรง ความยืดหยุ่นและเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง

 

คอลลาเจน

โปรตีนคอลลาเจน (Collagen) นั้นประกอบไปด้วยหน่วยย่อยที่เป็นกรดอะมิโน โดยจะเกิดขึ้นจากการที่คุณรับประทานเนื้อสัตว์ ปลาหรือนมถูกย่อยสลายจนแตกตัวและก่อตัวขึ้นใหม่เป็นโปรตีนในลักษณะอื่น ๆ เช่น โปรตีนที่ช่วยในกระบวนการรักษาแผล ซ่อมแซมกล้ามเนื้อหรือคอลลาเจน (Collagen) นั้นเอง ร่างกายของคนเราจะผลิตคอลลาเจน (Collagen) น้อยลงตามอายุลงไปเรื่อย ๆ ส่งผลให้เมื่อคุณมีอายุมากขึ้นการเชื่อต่อของเนื้อเยื่อในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายยิ่งอ่อนแอลงและเป็นสาเหตุของการเกิดผิวหนังเหี่ยวย่น มีริ้วรอย ขาดความยืดหยุ่นและทำให้บริเวณข้อต่อไม่แข็งแรง

 

คอลลาเจนช่วยให้อ่อนเยาว์จริงหรือไม่?

ใครหลาย ๆ คนอาจจะต้องการรักษาความอ่อนเยาว์และเต่งตึงของผิวทำให้นิยมซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีคอลลาเจน (Collagen) มาบำรุง ซึ่งผลวิจัยนั้นออกมาบอกว่าผลลัพท์ที่ได้ออกมานั้นไม่ได้เห็นผลอย่างชัดเจนทำให้ผู้วิจัยคิดว่าปัจจัยภายนอกมากกว่าที่จะช่วยให้ผิวของคุณดูอ่อนเยาว์โดยไม่ต้องพึ่งครีมหรืออาหารเสริมนั้นก็คือการรับประทานอาหารที่มีคอลลาเจน (Collagen) ครีมบำรุงที่ใช้ฟื้นฟูความอ่อนเยาว์นั้นเป็นแค่เพียงการให้ผลลัพท์ต่อผิวหนังชั้นบนเพียงเท่านั้นเพราะไม่ว่าจะเป็นมอยเจอไรเซอร์ที่มีคอลลาเจนหรือไม่มีคอลลาเจน (Collagen) ต่างก็ไม่มีคุณสมบัติในการที่จะซึมผ่านหรือถูกดูดซึมไปสู่ผิวหนังชั้นลึก ครีมต่าง ๆ จึงไม่มีประสิทธิภาพลดการสูญเสียคอลลาเจน (Collagen) หรือลบริ้วรอยได้ การฉีดคอลลาเจน (Collagen) นำมาใช้เป็นสารเติมเต็มหรือเรียกว่าการฉีดฟิลเลอร์ (Filler) แทนคอลลาเจน (Collagen) ส่วนที่สูญเสียไปของผิว โดยการที่ฉีดคอลลาเจน (Collagen) จะช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวหนัง ลดรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าและรอยแผลเป็นบางชนิด ผลิตภัณฑ์คอลลาเจน (Collagen) ที่นำมาใช้ฉีดส่วนใหญ่จะเป็นเซลล์ของวัวหรือของร่างกายคนเราก็ได้ แต่ในประเทศไทยยังไม่อนุญาตให้ใช้ฟิลเลอร์คอลลาเจน (Filler Collagen) ได้อย่างถูกกฎหมาย โดยสารเติมเต็มที่ปลอดภัยในตอนนี้ คือ กรดไฮยาลูโรนิก

 

อ่อนเยาว์ด้วยธรรมชาติ

พฤติกรรมและการรับประทานอาหารเป็นปัจจัยภายนอกที่สำคัญในการเร่งให้ผิวหนังสูญเสียคอลลาเจน (Collagen) การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตและการเลือกรับประทานอาหารนั้นเป็นสิ่งง่าย ๆ ที่จะได้ความอ่อนเยาว์คืนมา

- คุณควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่ดี เช่น อาหารที่มีน้ำตาลสูง เพื่อลดกระบวนการไกลเคชัน (Glycation) รวมถึงอาหารปิ้งย่างหรืออาหารสำเร็จรูปที่จะสามารถส่งผลให้ระดับอนุมูลอิสระในร่างกายของคุณเพิ่มขึ้นทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบการทำงานและคอลลาเจน (Collagen) ในร่างกาย

- เลือกรับประทานอาหารที่มีสารโคเอนไซม์ คิว (Co-Enzyme Q) เช่น ปลาแมคเคอเรลและวิตามินอี อัลมอนด์มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งความเสียหายและการสูญเสียคอลลาเจน (Collagen) ที่เกิดจากอนุมูลอิสระ รวมทั้งเพิ่มการได้รับวิตามินซีที่ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน (Collagen) สามารถรับประทานได้จากผลไม้รสเปรี้ยว

- ลดการรับสารต้านอนุมูลอิสระด้วยการหลีกเลี่ยงมลพิษทางสิ่งแวดล้อม เช่น ควัน ฝุ่น และพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อผ่อนคลายจากความเครียด

- ไม่สูบบุหรี่และหลีกเลี่ยงการรับควันบุหรี่จากผู้อื่นเพราะควันบุหรี่มีสารหลายชนิดที่ส่งผลให้คอลลาเจน (Collagen) และอิลาสติน (Elastin) ซึ่งเป็นโปรตีนที่มีบทบาทสำคัญต่อความยืดหยุ่นของผิวหนังถูกทำลายและนิโคตินที่จะส่งผลให้หลอดเลือดบริเวณผิวหนังชั้นนอกตีบแคบลงทำให้เกิดผิวสูญเสียน้ำและเกิดร่องรอยลึก

 

- ป้องกันผิวของคุณจากแสงแดด รังสียูวีในแสงแดดทำให้ปริมาณคอลลาเจน (Collagen) ในผิวหนังลดลง โดยทำให้สลายตัวเร็วขึ้นและทำลายเส้นใยคอลลาเจน (Collagen) เพื่อเพิ่มการสะสมของเส้นใยอิลาสตินที่ไม่ปกติ นอกจากนี้ยังเพิ่มเอนไซม์ที่ทำลายคอลลาเจน (Collagen) แต่วิธีแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด คือ หลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดดและแสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่สามารถปล่อยรังสียูวีออกมา คุณสามารถเลือกใช้ครีมกันแดดหรือเครื่องสำอางที่มี SPF เพื่อป้องกันผิวหนังจากแสงแดด

 

     แม้ว่าการเกิดริ้วรอยจะเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้เมื่ออายุของคุณมากขึ้น แต่คุณสามารถที่จะชะลอการเกิดริ้วรอยเหล่านั้นได้จากการรับประทานอาหารที่ทำให้ผิวพรรณของคุณอ่อนกว่าวัย